ไทยเป็นประเทศที่ เพศทางเลือกอย่างกลุ่ม LGBTQ+ สามารถเปิดเผยตัวตนได้อย่างเสรี และ ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลกว่า เป็นประเทศที่สามารถยอมรับความแตกต่าง และความหลายหลายทางเพศได้อย่างดี
เราจึงเห็นเพศทางเลือก อย่างกลุ่ม LGBTQ+ ทำงานอยู่ในหลากหลายอาชีพรอบตัวเรา โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ อย่าง Artist และ Designer
วันนี้ Shaka เลยมามาเปิดมุมมองทางความคิด เรื่องความเท่าเทียมในกลุ่ม LGBTQ+ จากดีไซเนอร์คนเก่ง ทั้ง 3 คน ของ shaka เพื่อให้เข้าใจถึงความหลากหลาย แรงบันดาลใจ และความเท่าเทียมในกลุ่มนี้กันมากขึ้นค่ะ
มาเริ่มที่คนแรก คุณอั๋น (ชาตรี เท่งฮะ) ดีไซเนอร์ผู้คร่ำวอร์ดในวงการแฟชั่นมาอย่างยาวนาน โดยการชนะรางวัล Thailand Young Designer Contest ปี 2000 และ เป็น Designer แบรนด์ Shaka มายาวนานกว่า 15 ปี ได้ให้ความหมายของการเป็น LGBTQ+ ไว้ว่า “การยอมรับซึ่งกันและกันในความหลากหลาย” และในมุมมองของคุณอั๋น เชื่อว่ากลุ่ม LGBTQ+ เป็นกลุ่มที่ มีความคิดสร้างสรรค์ไร้กรอบ เป็นการผสมผสาน หยิบยืมเอาจุดเด่นในความต่าง ทั้งในแง่ของลูกเล่นและฟังก์ชัน ซึ่งช่วยเสริมในการทำงานในวงการแฟชั่นได้อย่างดีเยี่ยม
![](https://www.shakastyles.com/wp-content/uploads/2024/01/3-2-1024x1024.jpg)
คนต่อมา คุณสื่อ (ธนากร เลิศรวีวงศ์) แม้จะเริ่มทำงานที่ Shaka มาเพียง 1 ปีกว่า แต่อยู่ในวงการแฟชั่นมานานกว่า 10ปี มีดีกรีจบ Garment Creation จาก Bunka Fashion College ของประเทศญี่ปุ่น ในปี 2012 ได้นิยามความเป็น LGBTQ+ ไว้ว่า “Diversity ที่มี Dynamic และ Harmonic” โดยมองว่าความเป็น LGBTQ+ ส่งผลต่อการทำงานในวงการแฟชั่น ในทางที่ดีคือ
”ทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์และนอกกรอบ ที่ผสมกลมกลื่น เข้ากับทุกตัวอักษรใน LGBTQ”
และ ใน Collection Spring/ Summer 2022 ของ Shaka นี้ คุณสื่อได้สอดแทรกเรื่องราวความเท่าเทียมกัน และความหลายหลายลงไปในเสื้อผ้าด้วย โดยมีมุมมอง และแรงบันดาลใจมาจากความคิดที่ว่า “beyond limitations no boundaries for any human being on this planet งานที่รังสรรค์ อย่างสร้างสรรค์ จะอยู่เหนือทุกกฎเกณฑ์ บนโลกใบนี้”
![](https://www.shakastyles.com/wp-content/uploads/2024/01/4-2-1024x1024.jpg)
และคนสุดท้าย น้องเล็กของบ้าน Shaka คุณดาลี่ (ณัฐนันท์ อยู่ชมบุญ) ทำงานที่ Shaka มานานกว่า 4 ปี และ อยู่ในวงการแฟชั่นมานานกว่า 9 ปี โดยจบการศึกษา คณะแฟชั่นดีไซน์ จากมหาวิทยาลัยรังสิต และ ศึกษาต่อปริญญาโทศิลปกรรมศาสตร์มหาบัณทิตย์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความเห็นเรื่อง LGBTQ+ ไว้ว่า “คือความอิสระและสิทธิ เสรีภาพ ในการเดินทางหรือการใช้ชีวิตอยู่บนความคิด และรสนิยมทางเพศ ที่ตัวบุคคลนั้น ๆ เป็นผู้เลือกเอง โดยไม่ว่าจะเป็นเพศไหน รสนิยมอย่างไรก็ควรมีสิทธิ์ มีเสรีภาพ เท่าเทียมกันในทุกเพศ และทุกรสนิยม โดย ทุกคนควรให้ความเคารพกัน เพราะเราต่างเป็นมนุษย์เหมือนกัน ไม่ใช่เพราะเพศ หรือรสนิยม ที่แตกต่างกัน”
และเมื่อถามว่า ความเป็น LGBTQ+ ส่งผลดีต่อการทำงานด้านแฟชั่นหรือไม่ คุณดาลี่มีความเห็นต่างออกไปว่า “การเป็น LGBTQ ไม่ได้ส่งผลต่อการทำงาน แต่มองว่าไม่ว่าจะเพศไหน หรือรสนิยมทางเพศเป็นอย่างไรทุกคนล้วนมีความชอบและมีความสามารถ ที่จะทำงานที่ได้รับผิดชอบได้ออกมากอย่างดี หากมองว่าเรื่องเพศที่สาม หรือเพศทางเลือก สามารถทำงานด้านแฟชั่นได้ดี นั้นคงไม่ถูกต้อง เพราะ ครูบาอาจารย์ที่มอบความรู้ และสั่งสอน มีทั้ง เพศหญิง เพศชาย หรือเพศทางเลือก ที่มีความสามารถด้านนี้ และสามารถสั่งสอน สรรค์สร้างบุคคลากรที่มีความสามารถให้กับอุตสาหกรรมแฟชั่น และสังคมได้”
![](https://www.shakastyles.com/wp-content/uploads/2024/01/5-2-1024x1024.jpg)
และส่วนตัวมองว่างการที่เราทำมันออกมาได้ดีนั้นเป็นเพราะเราชื่นชอบ และรักในสายงานแฟชั่น ซึ่งหลายคนที่มีความสามารถในวงการแฟชั่น ก็มีรวมกันอยู่ทุกเพศ จึงมองว่าเรื่องเพศไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน แต่เป็นเรื่องของความชอบและความรักในสายงานนี้มากกว่า และส่งผลต่อสิ่งเราทำให้มันออกมาในทางที่ดี ทำให้เรามีความสุขกับการทำงาน และมีความสุขทุกครั้งที่เห็นผู้คนส่วมใส่เสื้อผ้าที่เราออกแบบ มันเป็นการส่งต่อความสุขซึ่งกันและกัน และยังสร้างแรงบันดาลให้กับผู้คนอื่นอีกด้วย
จากการสัมภาษณ์ดีไซเนอร์ ทั้ง 3 ท่าน ทำให้เราเห็นชัดมากขึ้นในโลกที่มีความหลายหลายทางเพศ และความเคารพในการทำงานซึ่งกันและกันในทุกเพศ แต่ไม่ว่าเราจะเป็นเพศไหน เราก็มีความเท่าเทียมกัน และสามารถทำงานที่เรารักให้ออกมาดีมากยิ่งขึ้น Shaka ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่ทำงานที่รักให้ประสบความสำเร็จค่ะ